บ้านไม้สไตล์กระท่อมโมเดิร์น ดูโดดเด่น น่าสนใจ ดีไซน์แปลกใหม่

บ้านไม้สไตล์กระท่อมโมเดิร์น บ้านไม้สไตล์กระท่อม เมื่อครั้งที่แล้วเราได้พูดคุยกันไปถึงลักษณะของบ้านทรงกระท่อมหรือบ้านสไตล์คอตเทชอย่างกว้างๆ กันไปบ้างแล้ว ด้วยเสน่ห์ของบ้านที่มี ขนาดเล็กน่ารักนี้เอง ทำให้บ้านทรงกระท่อม เป็นบ้านที่ได้รับความนิยมของผู้คนนับ แต่อดีตกาลเรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบัน

บ้านไม้สไตล์กระท่อมโมเดิร์น

บ้านกระท่อม ในยุคต้นเกิดขึ้นตั้งแต่มนุษย์เรา เริ่มคิดที่จะสร้างที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เริ่มจากกระท่อมไม้ มุงด้วยหลังคาจาก หรือแฝก พัฒนามาเป็นกระท่อมของ ชาวนาที่เรียบง่ายอยู่สบาย และมีวิวัฒนาการข้าม ศตวรรษมาสู่บ้านกระท่อมในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่มีเสน่ห์น่ารักสำหรับ บ้านหรู

การมาใช้ชีวิตครอบครัว ที่หลบจากความสับสนของ ชีวิตประจำวันมาสู่ความเงียบสงบ และอบอุ่นในกระท่อมน้อยนี้ จากศตวรรษหนึ่ง สู่ศตวรรษหนึ่ง บ้านทรงกระท่อมก็ได้แปรเปลี่ยน รูปร่างไปหลายแบบตามอิทธิพล ของวัฒนธรรม และสังคมในแต่ละสมัย

บ้านทรงกระท่อมโมเดิร์น จะกี่ปีก็ยังคงความรู้สึกอบอุ่น

สำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศ การอยู่อาศัยที่รู้สึกถึง ความอบอุ่น อาจจะชอบบ้านสไตล์กระท่อม หรือบ้านฟาร์มแบบตะวันตก ที่สร้างด้วยวัสดุง่ายๆ รูปทรงเรียบ ๆ เป็นอาคารหลังคาจั่วที่ไม่มีความซับซ้อน แต่ถ้าต้องการให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ก็ต้องปรับประยุกต์กันหน่อย

ทั้งเรื่องการเลือกสรรวัสดุที่ทนทาน การออกแบบพื้นที่ใช้งาน ให้ลื่นไหลภายใน และการต่อเชื่อมระหว่าง ภายนอกกับในบ้าน เพื่อให้บ้านตอบโจทย์ได้สูงสุด เหมือนบ้านหลังนี้ที่ ดูธรรมดาแต่คิดมาอย่างดีทุกองค์ ประกอบให้ถูกใจผู้อยู่อาศัยมากที่สุด

บ้านทรงกระท่อม ที่เป็นสอง อาคารเชื่อมต่อกันมีพื้นที่ 145 ตร.ม. ตั้งอยู่ในหมู่บ้านRybí เขต Moravian-Silesian สาธารณรัฐเช็ก เป็นที่ดินผืนใหญ่ ที่ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพอัน งดงามของทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ป่าไม้ และบ้านในหมู่บ้าน ถนนทางเข้าข้ามลำธารที่จุดต่ำสุดของไซต์และมีทางข้ามเล็กๆ

ส่วนนี้ไม่มีรั้วจึงสามารถ เข้าถึงได้ง่ายโดยสาธารณะ (แม้จะอยู่ในทรัพย์สินของลูกค้าก็ตาม) และยังมีข้อจำกัดตรงลักษณะพื้นที่ลาดเอียงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ จึงเป็นที่มาของการทำบ้าน ให้หันเบี่ยงจากถนน ด้านหนึ่งยกพื้นสูงเพื่อให้บ้านทั้งสอง หลังอยู่ในระดับเดียวกัน

อีกหนึ่งโจทย์หลักคือ ลูกค้าต้องการบ้านสำหรับครอบครัว สี่คนและอีกห้องหนึ่งสำหรับปู่ย่า ตายายแยกต่างหาก เพื่อให้ผู้สูงวัยได้พักผ่อนสงบๆ ไม่มีเสียงเด็กเล็กรบกวน บ้านจึงแบ่งเป็นสองโซน หลังหนึ่งใช้งานร่วมกัน แบบสาธารณะ ส่วนอีกหลังเป็นห้องพักส่วนตัว ที่เชื่อมต่อกันผ่านทางเดิน และเฉลียงนั่งเล่นที่หันเข้าด้านใน เพื่อหลบจากสายตาของผู้คนที่อาจผ่านไปมาจากถนน

ใต้ร่มเงาของหลังคาที่ยื่นออกไปเกิดเป็นเฉลียง มีหลังคาคลุม ที่เชื่อมต่อทุกด้านของ บ้านเข้ากับลานสนามหญ้าสีเขียวสดชื่นกว้างๆ พร้อมวิวทิวป่า ให้ความเสุนทรีอย่างไม่รู้จบ เมื่อออกมานั่งพักผ่อน ฟังเสียงน้ำไหล ชมใบไม้ที่ค่อยๆ ร่วงหล่น หรือเสียงของการใช้ชีวิตในหมู่บ้านไม่ว่าจะเป็น

เครื่องจักรเครื่องยนต์ในไร่ หรือเสียงสัตว์ที่แวะมา ทักทายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ต้นไม้ที่โตเต็มที่รอบ ลำธารจะให้ร่มเงาจากแสงแดดในฤดูร้อน แต่กิ่งที่เปลือยเปล่าของต้นไม้เหล่านั้นก็ปล่อย ให้แสงแดดส่องเข้ามาในบ้านได้เพียงพอในฤดูหนาวที่ต้นทิ้งใบ

เมื่อเข้าสู่ปีกพื้นที่ส่วนรวม ครอบครัวจากห้องโถง จะพาไปยังหองนั่งเล่นแบบเปิดโล่งที่มี ความสูงสองเท่า พร้อมห้องรับประทานอาหารและครัว ซึ่งจะรายล้อมด้วยจังหวะของประตู หน้าต่างกระจกที่ออกแบบ เป็นเบย์วินโดว์นั่งเล่นริมหน้าต่างได้ ให้ทัศนียภาพที่เพียงพอรอบ ๆ อาคาร จากพื้นที่ทำอาหาร จะมีหน้าต่างแนวนอน เรียงยาวให้มองเห็นทางเข้าได้ จึงไม่พลาด การติดต่อทั้งภายในด้วยกันเอง หรือระหว่างภายในกับภายนอก

การตกแต่งบ้านด้วยโทนสีขาวเป็นหลัก และงานไม้แท้สีอ่อน ๆ ที่อยู่ทั้งเฟอร์นิเจอร์ พื้น ผนัง ไปจนถึงฝ้าเพดานที่กรุเอียงตามแนวหลังคาแบบ lean-to ทำให้บ้านคุมบรรยากาศให้ผ่อนคลาย สงบ อบอุ่นได้ทุกที่

โดยเฉพาะในห้องนอน แต่สถาปนิกก็แอบเพิ่มความน่าสนุก ให้บ้านที่ห้องนอนเด็กมีชั้นลอย ที่ตกแต่งด้วยไม้ระแนงและวอลล์เปเปอร์ลายจุด ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าห้องอื่นๆ เหมาะสมกับช่วงวัยเด็กที่ ต้องการเรียนรู้ บ้านนี้จึงตอบโจทย์สำหรับผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย

ในบ้านโมเดิร์นทั่วไปนิยม ตกแต่งภายในด้วยเนื้อไม้โทนสีขาว และสีเหลืองอ่อนๆ ที่ให้ความรู้สึกเรียบ สงบ แต่แฝงความอบอุ่น แต่มีไม้จำนวนไม่มาก ที่เหมาะจะใช้กับงานภายนอก เนื่องจากตัวไม้ต้องมี คุณสมบัติพิเศษ อาทิ ไม่มีเชื้อราดำเมื่อโดนความชื้น ไม่ผุเปื่อยเมื่อโดยฝน แมลงมอดปลอกไม่กิน

เช่น ไม้สัก ไม้ซีดาร์ที่มีราคาแพง บ้านในยุโรปหรือญี่ปุ่น จะทำผนังเป็นสีดำ ซึ่งไม่ใช้การทาสีทาบ้านทั่วไป แต่ใช้วิธีการถนอมไม้ด้วยไฟ เพิ่มความทนทาน ต่อสภาพอากาศ หรือ shou sugi ban เป็นการนำไม้มาเผา ไฟทำให้มีสีดำเคลือบบริเวณหน้าไม้ จะช่วยเสริมความแข็งแรง ยืดอายุงานไม้ได้นานหลายปี

ข้อดีของบ้านสไตล์โมเดิร์น

บ้านสไตล์โมเดิร์น (Modern Style) ถือว่าเป็นบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แถมยังมีมีรูปแบบบ้านที่สวย ได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งก่อ สร้างจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมของชาติ ตะวันตก บ้านสไตล์โมเดิร์นมีการนำเอาวัสดุอุสาหกรรมมาใช้ โดยเฉพาะส่วนของเหล็ก กระจก

เพื่อให้เป็นจุดเด่นของบ้าน และที่สำคัญเลยยังมอบความสวยงาม หรูหรา พร้อมความเรียบง่าย บ้านสไตล์โมเดิร์นส่วนใหญ่มักเป็น ทรงเรขาคณิตเหลี่ยมเรียบโปร่งโล่ง ไม่ซับซ้อน และมีโครงสร้างที่ไม่ยุ่งยากนัก พร้อมเอกลักษณ์ที่สังเกตได้ง่ายจากบริเวณหลังคาบ้าน และหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่

บ้านสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู ประหยัดงบประมาณ แน่นอนว่าบ้านสไตล์โมเดิร์น เป็นบ้านที่หลายคนใฝ่ฝัน และชื่นชอบอย่างมาก แถมยังมีการออกแบบ เรียบง่ายไม่ยุ่งยาก หากมีการนำมาสร้างที่ประเทศไทย สถาปนิกจึงมีการนำมาปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับสภาพอากาศ และความเป็นอยู่ของคนไทย

โดยมีการยกหลังคาให้สูง เพื่อป้องกันความร้อน ออกแบบปีกกันน้ำฝน เป็นต้น หากใครกำลังต้องการ ปลูกบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือ ศึกษาหาข้อมูล วันนี้พี่เข้มาพร้อมกับ ข้อดีของบ้านสไตล์โมเดิร์น เพื่อเป็นแนวทาง แต่ก่อนอื่นจะต้องบอกก่อนเลยว่ารูปแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น มีการออกแบบมาเพื่อชาวตะวันตก หากมีการนำมาปลูก สร้างแน่นอนว่าจะต้องพบเจอกับปัญหาบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างแน่นอน

ข้อดีของบ้านสไตล์โมเดิร์น

  • บ้านสไตล์โมเดิร์น เน้นความโปร่งโล่ง มีการออกแบบพื้นที่โล่ง เพื่อการใช้สอย ไม่นิยมก่อผนังกั้นมากเกินไป
  • มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นระเบียบ เรียบง่าย ไม่เยอะ
  • การสร้างผนังแบบปูนเปลือยที่ไม่จำเป็นต้องทาสี
  • พื้นบ้านที่ไม่ต้องมีการปูกระเบื้อง
  • ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย ดูแลรักษาง่าย
  • บ้านสไตล์โมเดิร์นมีการประหยัดงบประมาณ
  • พื้นเพดานบ้านสไตล์โมเดิร์นไม่จำเป็น ต้องมีการทำเพดานฝ้า
  • โครงสร้างบ้านก็ไม่ซับซ้อนมาก

ข้อเสียของบ้านสไตล์โมเดิร์น

  • บ้านสไตล์โมเดิร์นดูแข็ง ไม่อบอุ่นเท่าสไตล์อื่นๆ
  • องค์ประกอบต่าง ๆ ไม่เหมาะสมกับสภาพ อากาศร้อนในเมืองไทย
  • กระจกบานใหญ่ อาจทำให้แดดและความร้อน เข้าบ้านมากเกินไป
  • บ้านทรุดโทรมได้ง่าย